แผ่นเสียงไวนิล
ปี 2014 เป็นปีแห่งการคืนชีพของแผ่นเสียงซึ่งเริ่มกลับมาได้รับความนิยมจากนักฟังเพลงและนักสะสมทั่วโลก ยอดขายแผ่นเสียงในสหราชอาณาจักรทะลุ 1 ล้านแผ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ขณะที่ยอดขายแผ่นเสียงในสหรัฐฯพุ่งสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบจากปี 2013 ส่วนยอดขายซีดีดิ่งลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบจากยุครุ่งเรืองในปี 2001
คำถามที่น่าสนใจไม่แพ้สาเหตุของความนิยมที่กลับมาในครั้งนี้คือ ในยุคดิจิตอล แผ่นเสียงแตกต่างจากแพลทฟอร์มอื่นๆอย่างไร
นีล ยัง ศิลปินโฟล์คชื่อดังเพิ่งวิจารณ์คุณภาพของแผ่นเสียงว่าไม่แตกต่างจากคุณภาพ เสียงจากซีดี จากที่แผ่นเสียงบางกลุ่มเป็นการนำต้นฉบับเสียงซึ่งอัดในระบบดิจิตอลสำหรับ การผลิตซีดีมาบันทึกลงไวนิลเท่านั้นเนลยังระบุด้วยว่ากระแสความนิยมในแผ่น เสียงไม่ต่างจากกระแสแฟชั่น
มี ปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียงจากวัสดุบันทึกรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็น คุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้เล่น,ระดับความสมบูรณ์ของวัสดุบันทึกเสียงนั้นๆหรือ แม้แต่ความสามารถในการรับฟังจากหูของผู้ฟังเอง
อย่าง ไรก็ตามแนวคิดพื้นฐานหลักที่คนส่วนใหญ่เห็นตรงกันคือกระบวนการผลิตแบบ อนาล็อกของแผ่นเสียงให้ในสิ่งที่ดิจิตอลขาดไปคือเอกลักษณ์ของเสียงไวนิลซึ่ง คนส่วนใหญ่มักนิยามว่าเป็น"ความอุ่นของเสียง"ขณะที่กระบวนการผลิตแบบดิจิตอล อาจเที่ยงตรงกว่าแต่ก็ส่งผลให้เสียงขาดความนุ่มนวลไป
ข้อโต้เถียงเรื่องคุณภาพของเสียงอาจขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของบุคคลด้วยและเป้าประสงค์รวมถึงพฤติกรรมส่วนตัวซึ่งล่าสุดนีลยัง เพิ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองเป็นเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูงแบบพกพาในชื่อ "โพโน" โดยอธิบายว่าเป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูงในราคาหลักหมื่นบาทต้นๆ แม้จะมีศิลปินจำนวนมากการันตีคุณภาพเสียงที่ได้จากการฟังเครื่องเล่นแบบใหม่ของนีล ยัง แต่ยังมีนักวิจารณ์ที่สงสัยในคำโฆษณาหรือการอธิบายสรรพคุณของไฟล์เสียงคุณภาพสูง
เส้น ทางของวัสดุบันทึกเสียงในยุคดิจิตอลยังคงมีปัญหาและเรื่องให้ขบคิดอีกมากมาย ในแง่หนึ่งความพยายามหารูปแบบวัตถุต่างๆที่จะให้เสียงดีที่สุดแก่ผู้ฟังถือ เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคแต่ในขณะเดียวกันการใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็น จริงหรือยังไม่สามารถพิสูจน์ได้รวมถึงใส่ความคิดเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัว อาจส่งผลลบที่คาดไม่ถึงต่อส่วนรวม
ที่มา : http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423668207 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น