วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

นักสะสมแผ่นเพลงแห่งดาวโลก


Album:Photos from Mads Musicaddictiondisorders's post in What r u listening to?


นักสะสมแผ่นเสียง แห่งดาวโลก ...เรื่องโดย นิรันศักดิ์ บุญจันทร์ 
กรุงเพทธุรกจิ จุดประกาย วันที่ ศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2556

ถ้าคุณเปิดร้านขายแผ่นเสียเก่าแล้วจู่ๆ วันหนึ่งมีคนโทรศัพท์มาสั่งซื้อแผ่นเสียงที่ร้านของคุณ 20,000 แผ่น(สองหมื่นแผ่น) โดยที่คุณไม่รู้ว่าคนซื้อเป็นใครมาจากไหน แน่นนอนที่สุด...คุณจะต้องรู้สึกประหลาดใจ และคิดว่าหมอนั่นคงเพี้ยน หรือไม่ก็แกล้งโทรมาเล่นเท่านั้น เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะสั่งซื้อแผ่นเสียงทีละสองหมื่นแผ่น และแม้คุณจะติดต่อกลับไป เพื่ออยากจะรู้ตัวตนของชายคนนั้น แต่ก็ไม่รับเพียงเสียงหัวเราะและการปฏิเสธว่าไม่สะดวกที่จะมาดูที่ร้านเท่านั้น

นอกจากนี้แล้วคนสั่งซื้อแผ่นเสียงนิรนาม ยังบอกให้คุณคัดเลือกแผ่นเสียง พร้อมบอกราคาทั้งหมด และจัดการส่งมาตามที่อยู่ที่ระบุอีก้วย... นี่จึงยิ่งสร้างความงุงงสงสัยให้กับคุณมากยิ่งขึ้นและสิ่งที่คุณคาดคิดไว้แต่แรกว่าเป็นคนเพี้ยนโทรมาล้อเล่นนั้นผิดหมด เพราะคนที่สั่งซื้อแผ่นเสียงนั้นมีตัวตนจรงิๆ จนมากระทั่งคุณขนแผ่นเสียงขึ้นรถหกล้อไปส่งตามที่นัดหมาย ซึ่งเป็นโรงงานสเตนเลสแห่งสึ่งแถวบางน้ำจืด แลมีเลขาสาวหน้าตาแบบสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ออกมาต้อนรับพร้อมเขียนเช็ดจำนวนเงินก้อนโตให้นั้นแหละคุณก็ถึงกับนิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ เหมือนโดนก้อนหินทุบหัวเลยทีเดียว

แล้วนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากมีการติดต่อซื้อแผ่นเสียงกับชายคนนี้ในฐานะเป็นลูกค้าประจำบ่อยครั้งมากขึ้น คุณก็มีโอกาสรู้ว่า ชายคนดังกล่าวนั้นคือใครและมื่อคุณได้เห็นโลกส่วนตัวของเขาแล้ว ก็ทำให้คุณต้องตกตะลึงพรึงเพริดทันที เนื้องจากสิ่งที่คุณเห็นนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้ มันน่าเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ก็เป็นคนที่มีอะไรพิเศษ และแตกต่างจากคนทั่วๆ ไปนั้นเอง 


<ความหลังของช่างไม้คนหนึ่ง>
อดิศักดิ์ แจ่มจิราศัย เกิดแถวๆวัดปากน้ำภาษีเจริญ เตี่ยมาจากเมืองจีนเป็นลูกจ้างอยู่ที่สำเพ็ง ส่วนแม่เป็นคนไทยรับจ้างเย็บเสื้อโหล หกาย้อนวันเวลาไปเมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มวัย 15 ปีที่ชื่อ “อดิศักดิ์ แจ่มจิราศัย” มีชีวิตค่อนข้างลำบาก เนื่องจากฐานะครอบครัวไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองด้วยการเป็นช่างไม้ ได้รับค่าจ้างเงินเดือนพันกว่บาท หนังสือหนังหามีโอกาสได้เรียนแค่ชั้นประถมเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถทดแทนให้กับชีวิตได้ ก็คือการหาหนังสือมาอ่านเอง 

นอกจากนี้แล้วยังเป็นคนที่ชื่นขอบในเสียงเพลงอีกด้วย 
“สมัยนั้นได้เงินเดือนพันกว่าบาท เวลาทำงานก็ฟังวิทยุ ยุคนั้นเพลงของ สุรพล สมบัติเจิรญ โด่งดังมาก ผมฟังเพลงสุรพล จนจำเนื้อร้องได้แทบทุกเพลง สมัยนั้นจะฟังเพลงอย่างอื่นก็ไม่ค่อได้ เพราะเป็นวิทยุธรรมดาๆ จะมัวไปหมุนหาคลื่นก็ไม่ได้อีก เพราะเป็นข่วงเวลาทำงาน ทำงานเจ็ดโมงเช้า เลิกหนึ่งทุ่ม จนกระทั่งเพือนคนหนึ่งเอาแผ่นแค็ตาล็อกวิทยุยี่ห้อเทเลพุ่งเก้นมาให้ดูนั้นแหละ ใจอยากจะได้มาก แต่เราเป็นลูกจ้าเงินเดือนพันกว่าบาท การจะซื้อวิทยเทเลพุ่งเก้นสักเครื่องจึงเป็นแค่ความฝันเท่านั้น” 

อดิศักดิ์ ย้อนความหลังให้ฟังถึงสิ่งที่ค้างคาอยูในใจ เมื่อสมัยทำงานเป็นช่างไม้ และมันได้กลายเป็นความฝันที่ซ่อนอยู่ในใจลึกๆ จนกระทั่งเห็บหอมรอมริบลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับแป็บน้ไ และเติบโตกลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัวในเวลาต่อมา จึงขยายกิจการมากขึ้นโดยลงทุนทำโรงงานผลิตเกี่ยวกับสเตนเลสในระดับหลายร้อยล้านบาท 
แต่ในขณะที่ธุรกิจโรงงานสแตนเลสกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี จนเมื่อปี 2540 เศรษฐกิจไทยล่มสลายหรือยุคฟองสบู่แตก จึงทำให้เป็นหนึ้หลายร้อยล้านบาททันที พร้อมกันนี้ความเครียดกับ

ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังจู่โจมโรมรันชีวิตอย่างนักหน่วง 
“คิดดูสิ...อยู่ดีๆ ผมต้องกลายเป็นคนมีหนี้สินหลายร้อยล้านบาท ผมเครียดมากช่วงนั้น เวลานั่งโต๊ะทำงาจะอ้วกออกมากเลยล่ะ นอนก็นอนไม่หลับ หาวิธีรักษาหลายอย่างก็ไม่หาย ไปหาหมอโรงพยาบาลหลายแห่งก็ไม่ดีขึ้น จนไปเจอเพื่อคนหนึ่งเป็นหมออยู่ที่ศิริราชนั้นแหละ เขาจึงจับตัวผมตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดว่าเป็นโรคอะไรกันแน่น ในที่สุดเพือนหมอก็บอกว่า..โธ่เอ็ย..ไม่เป็นอะไรหรอก เครียดไปเอง แล้วก็แนะนำผมว่าเลิกเครียดได้แล้ว”

หลังจากรู้สาเหตุว่าโรงที่ตัวเองเผชิญอยู่นั้นคือความเครียด จึงหาวิธีทำให้หายเครียดโดยสิ่งที่มันยังฝังใจสมัยเป็นหนุ่มช่างไม้วัย 15 ปีเกี่ยวกับเสียงเพลงและวิทยุมันผุดขึ้นในความอย่างฉับพลัน
“สิ่งแรกหลังจากไปพบเพื่อหมอด และรู้ว่าตัวเองเป็นโรคเครียดเท่านั้น ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไรอื่น ผมตัดสินใจซื้อเครื่องเสียง ProAC ราคาล้านกว่าบาท เล่นทันที พอซื้อแผ่นเสียงมาเล่น และมีโอกาศได้ฟังเพลงเท่านั้น จึงทำให้ผมรู้สึกหายเครียด จิตใจสบายไม่วิตกกังวลใดๆ และสามารถจะนอนหลับได้ซึ่งผมถือว่าเสียงเพลงมันเป็นยาขนานเอกทีดีอย่างยิ่ง บางคนบอกว่าสวดมนต์จะทำให้หลับสบาย แต่สำหรับผมแล้วการได้ฟังเพลงทำให้ผมหลับสบาย จนทุกวันนี้ก่อนนอนจะต้องฟังเพลงทุกคืน” 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เสียงเพลงจากแผ่นเสียงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และปี 2541 เป็นต้นมาจึงเสาะแสวงซื้อแผ่นเสียงมาสะสมเอาไว้จนที่โรงงาน อดิศักดิ์ กลายเป็นแหล่งสะสมแผ่นเสียงขนาดใหญ่ นับแสนๆ แผ่น โดยมีแผ่นเสียงเพลงทุกประเภท และถ้าจะบอกว่ามีมากที่สุดในเมืองไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียนก็ย่อมได้ 

<เหตุผลที่อยู่เหนือเหตุผล >

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เห็นนักธุรกิจจะสะสมภาพเขียน สะสมนาฬิกา หรอสะสมพระเครื่องแต่

สำหรับ อดิศักดิ์ นักธุรกิจ 66 ปีที่เติบโตมาจากช่างไม้กลับหลงไหลเสียงเพลง วิทยุ และเครื่องเสียงมากกว่า 
“เมื่อก่อนผมเองก็ชอบนาฬิกา ผมซื้อยี่ห้อเดียวคือปาเตะฟิลิปเท่านั้น ซื้อทีละ 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะไปซื้อร้านหนึ่งแถวๆ เซ็นทรัลเวิลด์ ใส่กางเกงขาสั้นไปซื้อ ซื้อเสร็จ ก็ใส่กะเป๋ากางเกงกลับบ้าน ... จนปี41 เป็นต้นมาผมเริ่มสะสมแผ่นเสียง นอกจากนี้ยังสะสมวิทยุโบราณ ,เครื่องเล่นกระบอกเสียง , เครื่องลำโพง และเครื่องเล่นแผ่นเสียง... เหตุผลก็เพราะมันเป็นเส่งที่ทำให้ชีวิตผมมีความสุข” 

นอกเหนือจากแผ่นเสียงเพลงต่างๆ นับแสนๆ แผ่นแล้ว สิ่งที่ชวนให้ตืนตาตื่นใจ ก็คือวิทยุโบราณยี่ห้อโด่งดังของโลก ซึ่งมีทั้งหมด 850 เครื่องนอกจากนี้แล้ว ยังมีเครืองเล่นแผ่นเสียง จำนวน 350 เครื่อง ซึ่งล้วนแล้แต่เป็นสิ่งของหายากทั้งสิ้น และบอกได้เลยว่าที่นี่มีมากที่สุดในเมืองไทย และมากว่าพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งในบ้านเราอีกด้วย
“สิ่งเหล่านนี้ผมไม่ได้สะสมเอาไว้ขาย ... แม้แต่แผ่นเสียงแผ่นเดียวผมก็ไม่ขาย มันมีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก” 

และมีอีกสิ่งหนึ่งที่ใครเห็นแล้วจะรู้สึกตืนตาตืนใจอย่างยิ่ง นั้นก็คือ เครื่องเล่นกระบอก เสียง Edison ยุคแรกอายุ 126 ปี ซึ่งมีทั้งหมด 7 เครื่อง เช่นเดียวกับเครื่องแอมป็และลำโพงยี่ห้อดังของโลกที่สะสมเอาไว้จำนวนมากมาย เช่น คอนราด จอนห์นสัน , จาดิส โดยตึกอาคารในบริษัทสี่ห้าชั้น พืนที่ส่วนมากจะเป็นที่เก็บวิทยุโบราณ และเครื่องลำโพงชนิตต่างๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบางเครืองราคานับล้านบาท และหาได้ยากยิ่งในทุกวันนี้ 


<คุณค่าที่มากกว่าราคาแผ่นเสียง >

การแสวงหาแผ่นเสียงของ อดิศักดิ์ นอกจากจะติดต่อซื้อตามร้านต่างๆ แล้วยังมีคนรู้จักกันเอามาให้ฟรีๆ อีกด้วย เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ชอบแผ่นเสียง 
“ก่อนที่ผมจะซื้อไม่ว่าจะเป็นแผ่นเสียง หรือเครื่องเสียงต่างๆ ผมจะหาดูข้อมูลจากหน้งสือหนังหาก่อน เพราะผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับเครื่องเสียง ผมอ่านมาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มแล้ว “
เมื่อถามว่าแผ่นเสียงที่ซื้อมาราคาสูงสุ คือแผ่นอะไร อดิศักดิ์ บอกอย่าไม่รีคอว่า 
“เป็นแผ่นเสียงของ Blue Note ซึงเป็นเพลงแจ็ส เป็นแผ่นออริจินับที่มีลักษณะพิเศษ โดยด้านหนึ่งมีที่อยู่มีข้อมูล แต่อีกด้ายกลับไม่มี โดยมันหลุดออกมาไม่กี่แผ่นเท่านั้นราคาที่ซื้อมาตกหมืนกว่าบาท” 

สำหรบแผ่นเสียงที่มีอยู่นั้น จะมีเพลงทุกประเภท ทั้งเพลงไทย เพลงสากล และเพลงงิ้ว ด้วย เพราะเป็นคนที่รู้ภาษาจีน 
“ แผ่นเสียงแต่ละแผ่น ไม่ว่าจะเป็นเพลงลูกทุ่ง เพลงไทยสากล เพลงคลาสสิก ตลอดจนเพลงงิ้ว มันจะมีเรื่องราวต่างๆ อยู่ในนั้น เหมือนการบันทึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งยุคเก่าที่แต่งโดยครูเพลงที่มีชื่อเสียง มันเป็นศิลปะที่ยอดเยี่ยม อย่างเพลงบางเพลงเรานึกไม่ถึงเลยว่า เขาแต่งออกมาได้อย่างไร มันเพราะมันมีความหมายที่ลึกซึ้งมาก อย่างเพลง ของ สุรพล สมบัติเจริญ และของครูไพบูลย์ บุตรขัน” 
ในฐานะที่เป็นนักสะสมแผ่นเสียง, วิทยุ, เครื่องเสียงและลำโพงแห่งดาวโลก อีกทั้งเป็นคนที่มอง

เห็นคุณค่าของเสียงเพลง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ย่อมต้องมีศิลปินที่ซื่นขอบเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
“ถ้าถามผมว่าขอบเพลงของใครมากที่สุด ต้องบอกว่าผมชอบ สุรพล สมบัติเจริญ มากที่สุด ผมถือว่าสุรพลเป็นบุคคลที่มีคุณค่าอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความสามารถสูงอีกด้วย เป็นทั้งนักดนตรี นักร้อง นักแด่งเพลง 
และเป็นนักบริหาร โดยเฉพาะเพลงที่แต่งออกมาแต่ละเพลง ไม่ว่าจะร้องเองหรือแต่งให้คนอื่นร้อง ล้วนแล้วแต่โด่งดังทั้งสิ้น 
นักร้องอีกคนที่ผมชอบ ก็คือ ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ชอบตรงน้ำเสียงที่ซึ่งนุ่มลึกมาก ฟังแล้วสบายอามารณ์อย่างยิ่ง...แต่ถ้าเป็นนักร้องฝรั่งผมชอบ เอลตัน จอนห์น ซึ่งผมฟังมานานแล้ว เพลงเขามีความหมายดีมาก... 

ส่วนเพลงอีกประเภทที่ชอบฟังก็เป็น เพลงคลาสสิก โดยผมสะสมแผ่นเสียงเพลงประเภทนี้มากที่สุด” ในส่วนทัศนะเกี่ยวกับเสียงเพลงนั้น อดิศักดิ์ บอกว่า...เสียงเพลงทำให้ความขัดแย้งของคนเราลดลง ทำให้โลกนี้มีความสงบและมีความสวยงามมากขึ้น 

<ชีวิตในโลกสองด้าน >

ลกแลชีวิตด้านหนึ่งของ “อดิศักดิ์” นั้นทุกวันนี้เป็นเจ้าของบริษัท เกรทเซ้นทรัล (อินเตอร์เนชั่นเนล) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตสเตนเลศ นอกจากนี้แล้วยังเป็นนายกสมาคมสเตลเลสไทยอีกด้วย และเนื่องจากเป็นคนที่ต้องดิ้นรนแสวงหาความรู้ด้วยตนเองมาโดยตลอดนับตั้งแต่วัยหนุ่ม จึงมุมานะเล่าเรียนจนจบระดับปริญญาตรี คณะเสรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง และ ปัจจุบันก็กำลังศึกษาระดับปริญญาโทคณะเดียวกันนี้
ส่วนชีวิตอีกด้านที่ทุ่มเทให้กับโลกแห่งเสี่ยงเพลงและเครื่องเสียงต่างๆนั้น อดิศักดิ์ เปิดเผยความในใจว่า อยากจะให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นหลังๆ คล้ายเป็นพิพิธภัฑ์หรือห้องสมุออะไรทำนองนั้น ซึ่งสามารถจะยืมแผ่นเสียงไปฟังได้ หรือจะมาศึกษาเกี่ยวกับวิทยุและเครื่องเสียงโบราณได้ 

แม้มันจะเป็นโครงการที่อยู่ในใจผม .. แต่มันก็มีปัญหาอยู่มาก เพราะแผ่นเสียงวิทยุและเครื่องเสียงจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องมีสถานที่ขนาดใหญ่ ต้องมีคนดูแลรักษาและทีสำคัญจะต้องมีคนที่รู้เรื่องข้อมูลต่างๆ กี่ยวกับแผ่นเสียงแต่ละแผ่นมานั่งทำงานด้วย อันนี้เป็นปัญหาอย่างมาก มันเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน... แต่ถึงอย่างไรโครงการเหล่านี้ยังอยู่ในความคิดของผม ตลอดเวลาเพื่อต้องการให้สังคมได้เรียนรู้กับสิ่งต่างๆที่ผมได้สะสมไว้” 
และเขาได้ย้ำอีกว่า “ เสียงเพลงทำให้ความขัดแย้งของคนเราลดลง ทำให้โลกนี้มีความสงบและมีความสวยงามมากขึ้น” 
ใช่แล้ว...นี่คือคำยืนยันของนักสะสมแผ่นเสียงแห่งดาวโลก และคือความจริงทุกประการ


ที่มา : 
http://www.inphono.com/index.php/forum/7-hobbies/41180----

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น